อธิบายคำศัพท์ในการเทรดด้วยมาร์จิ้น

คำศัพท์ที่สำคัญ

มาร์จิ้น เงินทุนเริ่มต้นจากแหล่งของคุณเองที่ใช้ในการเปิดโพสิชันสำหรับการเทรดด้วยมาร์จิ้น

ซึ่งก็คือจำนวนสินทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของคุณก่อนการกู้ยืมใดๆ และทำหน้าที่เป็นหลักประกันในการเทรดโดยใช้เลเวอเรจ
บัญชีมาร์จิ้น บัญชีเฉพาะสำหรับการกู้ยืมและการเทรดด้วยมาร์จิ้น โดยมีบัญชีมาร์จิ้นสองประเภท:

Cross Margin: เลเวอเรจสูงสุด 5x ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถยืมได้สูงสุด 4 เท่าของเงินต้น

Isolated Margin: เลเวอเรจสูงสุด 10x โดยเลเวอเรจสูงสุดที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามคู่เทรด
เลเวอเรจ เลเวอเรจแสดงให้เห็นว่าโพสิชันการเทรดของคุณมีขนาดเทียบกับมาร์จิ้นได้กี่เท่า

มาร์จิ้น × เลเวอเรจ = สินทรัพย์รวมในโพสิชัน

กำหนดวงเงินกู้ยืมสูงสุด และด้วยเหตุนี้คือสินทรัพย์รวมสำหรับโพสิชันของคุณ
กำไรและขาดทุน (P/L) คำนวณเป็นส่วนต่างของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ระหว่างมูลค่าปัจจุบันและเมื่อคุณยืมครั้งแรก
สินทรัพย์รวม ผลรวมโดยประมาณของสินทรัพย์ทั้งหมด รวมทั้งสินทรัพย์ที่มีอยู่และสินทรัพย์ที่ถูกล็อก
สินทรัพย์ที่ถูกโอน สินทรัพย์ถูกย้ายเข้าบัญชีมาร์จิ้นของคุณจากบัญชีอื่น
สินทรัพย์ที่โอนได้ สินทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของคุณที่สามารถย้ายไปยังบัญชีอื่นได้
สินทรัพย์ที่ยืมมา สินทรัพย์ที่ได้มาผ่านสินเชื่อ P2P เพื่อใช้ในบัญชีมาร์จิ้นของคุณ
สินทรัพย์ที่มีอยู่ สินทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของคุณซึ่งพร้อมสำหรับการเทรด รวมถึงทั้งทีถูกโอน และที่ยืมมา
สินทรัพย์ที่ถูกล็อก สินทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของคุณที่ไม่สามารถใช้เพื่อส่งคำสั่งได้ โดยปกติจะเป็นเพราะมีถูกใช้สำหรับคำสั่งที่เปิดอยู่แล้ว
กู้ยืม เมื่อคุณยืมสินทรัพย์เพื่อใช้ประโยชน์จากโพสิชันของคุณ ซึ่งดำเนินการโดยใช้สินทรัพย์ที่คุณโอนเข้าบัญชีมาร์จิ้น เพื่อยืมเงินทุนเพิ่มเติมมาเพื่อใช้ในโพสิชัน
ผู้ให้กู้และผู้กู้ ผู้ให้กู้: ฝ่ายที่ให้เงินทุนเพิ่มเติมสำหรับเป็นเลเวอเรจ

ผู้กู้: ฝ่ายที่กู้ยืมเงินเพื่อนำมาเพิ่มโพสิชันของตน
ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมเป็นร้อยละสำหรับการใช้สินทรัพย์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะจ่ายจากผู้กู้ไปยังผู้ให้กู้ 
เงินต้นและดอกเบี้ย จำนวนเดิมในบัญชีมาร์จิ้น พร้อมดอกเบี้ยสะสม
จำนวนที่กู้ยืมได้สูงสุด จำนวนสูงสุดที่สามารถกู้ยืมได้โดยบัญชีมาร์จิ้นของคุณ
ยืมอัตโนมัติและชำระคืนอัตโนมัติ ยืมอัตโนมัติ เมื่อคุณตั้งค่าเลเวอเรจแล้ว คริปโตเคอเรนซีที่จำเป็นในการเทรดจะถูกยืมโดยอัตโนมัติจากการส่งคำสั่ง

ชำระคืนอัตโนมัติ ชำระคืนหนี้สินคงค้างโดยอัตโนมัติก่อน เมื่อได้รับสินทรัพย์จากคำสั่งที่เสร็จสมบูรณ์

โดยทั้งสองฟังก์ชันสามารถกดปุ่มให้เปิดหรือปิดได้ตามต้องการ 

 

กรณีที่การกู้ยืมล้มเหลว

ไม่ว่าจะเป็นแบบอัตโนมัติหรือแบบด้วยตนเอง การยืมอาจล้มเหลวหาก:

  • คริปโตถูกเพิกถอนจากตลาดการเทรดด้วยมาร์จิ้น
  • ความลึกของตลาดมีไม่เพียงพอ
  • จำนวนเงินกู้เกินขีดจำกัดความเสี่ยงมาร์จิ้นสำหรับคริปโตเคอเรนซี

 

อัตราส่วนหนี้สิน

อัตราส่วนหนี้สิน

สัดส่วนของหนี้สินรวมต่อสินทรัพย์รวมในบัญชีมาร์จิ้น


อัตราส่วนหนี้สิน = หนี้สินในบัญชี ÷ สินทรัพย์ในบัญชีรวม

หนี้สินในบัญชี

ผลรวมของเงินทุนที่คุณยืมมา พร้อมดอกเบี้ยสะสม


∑ (สินทรัพย์ที่ยืมมารวม × ราคา Mark ของสินทรัพย์เหล่านี้) + (ดอกเบี้ยสะสมของสินทรัพย์ที่ยืมมา × ราคา Mark ของสินทรัพย์เหล่านี้) 

สินทรัพย์ในบัญชีรวม

ราคา Mark ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถืออยู่ในบัญชีมาร์จิ้นของคุณ 

∑ (สินทรัพย์ที่ถือครองรวม × ราคา Mark ของสินทรัพย์เหล่านี้)

 

การจัดการความเสี่ยง

อัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้น บ่งชี้ถึงการกู้ยืมที่สูงขึ้นและความเสี่ยงในการชำระบัญชีที่สูงขึ้น

ระดับความเสี่ยง ต่ำ กลาง สูง
อัตราส่วนหนี้สิน ≤ 60% 60%90% > 90%

 

ในการจัดการความเสี่ยงที่สูง ให้ลดอัตราส่วนหนี้สินของคุณ โดยคุณสามารถทำได้โดย:

1. การโอนสินทรัพย์เพิ่มเติมจากบัญชีอื่นไปยังบัญชีมาร์จิ้นของคุณ

2. การชำระคืนคริปโตเคอเรนซีที่ยืมมาเพื่อเคลียร์หนี้บางส่วนของคุณล่วงหน้า

 

ชำระบัญชี

ราคา Liquidation Price อ้างอิง ราคาที่การชำระบัญชีของโพสิชันของคุณเกิดขึ้น 

ค่าประมาณการที่คำนวณตามสินทรัพย์และหนี้สินรวมของบัญชีมาร์จิ้น โดยใช้ราคาดัชนีสปอต (BTC) ที่สอดคล้องกัน 

ขณะนี้มีเฉพาะในโหมด Isolated Margin เท่านั้น ราคา Liquidation ของบัญชี Isolated Margin แต่ละบัญชีจะถูกคำนวณอย่างอิสระโดยไม่มีผลต่อบัญชีอื่นๆ 
ชำระบัญชี ทริกเกอร์เมื่ออัตราส่วนหนี้สินถึง 97% โดยนำไปสู่การขายสินทรัพย์ที่ถือครองเพื่อชำระคืนหนี้สินและดอกเบี้ยทั้งหมด เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมล ข้อความ และบนแพลตฟอร์ม
บังคับชำระบัญชี เกิดขึ้นในสองสถานการณ์:

1. เมื่ออัตราส่วนหนี้สินถึง 97% โดยนำไปสู่การขายสินทรัพย์ส่วนหนึ่งเพื่อชำระหนี้สินและดอกเบี้ย

2. เมื่อการชำระดอกเบี้ยล้มเหลว ซึ่งนำไปสู่การชำระบัญชีบางส่วนของสินทรัพย์เพื่อครอบคลุมดอกเบี้ยรายชั่วโมง

โดยระบบจะเข้าควบคุมและชำระบัญชีทุกโพสิชันเพื่อชำระหนี้สิน ซึ่งยอดคงเหลือใดๆ หลังจากหักค่าธรรมเนียม (ประมาณ 1% ของมูลค่าโพสิชันทั้งหมด) ที่ใช้เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงจากยอดคงเหลือติดลบ จะได้รับเป็น USDT หรือโทเค็นที่่ทำการชำระบัญชี
ขีดจำกัดความเสี่ยงมาร์จิ้น มาตรการจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการสูญเสียจำนวนมากจากการบังคับชำระบัญชีในตลาดที่มีความผันผวนสูง

เพื่อลดความเสี่ยงในการเทรด ขีดจำกัดความเสี่ยงมาร์จิ้นของ KuCoin จะกำหนดขีดจำกัดในการยืมและซื้อสำหรับแต่ละคริปโต โดยปรับขีดจำกัดเหล่านี้เป็นระยะๆ ตามสภาวะตลาดและนโยบายความเสี่ยง

มีสามองค์ประกอบ:

ขีดจำกัดโพสิชันสูงสุด: ขีดจำกัดการถือครองสูงสุดสำหรับแต่ละคริปโตเคอเรนซี่ในบัญชีมาร์จิ้น

ขีดจำกัดการยืมสูงสุด: จำนวนการยืมสูงสุดสำหรับแต่ละคริปโตเคอเรนซีในตลาดการให้ยืม

ซื้อเข้าสูงสุด: จำนวนเงินที่สามารถซื้อได้สูงสุดสำหรับแต่ละคริปโตเคอเรนซี่ในการเทรดด้วยมาร์จิ้น

หมายเหตุ: ขีดจำกัดความเสี่ยงมาร์จิ้นสำหรับ Cross และ Isolated Margins สามารถดูได้ที่นี่ บัญชีหลักแต่ละบัญชีใน KuCoin สามารถมีบัญชีย่อยได้ 5 บัญชี โดยแต่ละบัญชีมี 10% ของขีดจำกัดของบัญชีหลัก

ตัวอย่าง: หากคริปโตเคอเรนซี่ถึงขีดจำกัดของโพสิชันสูงสุด ผู้ที่มีโพสิชัน Short ยังสามารถซื้อผ่านตลาดมาร์จิ้นเพื่อครอบคลุมหนี้สินของตนได้ อย่างไรก็ตาม บุคคลอื่น (เช่นผู้ที่อยู่ในโพสิชัน Long) จะไม่สามารถยืมหรือซื้อโทเค็นนั้นได้อีก
กองทุนสำรองความเสี่ยง ครอบคลุมการขาดแคลนเมื่อสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ในบัญชีของคุณหลังการชำระบัญชียังไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ 

ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากค่าธรรมเนียมดอกเบี้ย 10% จากผู้ให้กู้ เมื่อใดก็ตามที่ผู้กู้ชำระคืนหนี้สินของตน