ระดับขีดจำกัดความเสี่ยง
ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงคืออะไร?
ระดับขีดจำกัดความเสี่ยง เป็นกลไกการจัดการความเสี่ยงที่จำกัดความเสี่ยงด้านโพสิชันให้กับนักเทรด ในตลาดที่ผันผวน นักเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงและถือโพสิชันขนาดใหญ่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดเมื่อถูกชำระบัญชี จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อนักเทรดรายอื่น ฉะนั้น ฟิวเจอร์สของ KuCoin ใช้กฎระดับขีดจำกัดความเสี่ยงกับผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่านักเทรดที่มีโพสิชันขนาดใหญ่ต้องมีการวางหลักประกันขั้นต้นมากขึ้นเพื่อถือโพสิชัน ควบคุมความเสี่ยง และปกป้องผู้ใช้รายอื่นจากความเสี่ยงเพิ่มเติม เมื่อโพสิชันขนาดใหญ่ถูกชำระบัญชี แนวทางการลดโพสิชันแบบระดับขั้นจะถูกใช้ เพื่อลดผลกระทบต่อตลาดให้น้อยที่สุด
ซึ่งรวมถึงสี่องค์ประกอบ ได้แก่ มูลค่าโพสิชัน, เลเวอเรจสูงสุด, อัตราหลักประกันขั้นต้น, และอัตราหลักประกันรักษาสภาพขั้นต่ำ
ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของมูลค่าโพสิชัน (สำหรับสัญญา Forward) หรือจำนวนโพสิชัน (สำหรับสัญญา Inverse) เมื่อระดับเพิ่มขึ้น ทั้งอัตราหลักประกันรักษาสภาพและอัตราหลักประกันขั้นต้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน (หรือก็คือ มาร์จิ้นแบบเป็นลำดับขั้น) อย่างไรก็ตาม ยิ่งมูลค่าโพสิชันสูงเท่าใด เลเวอเรจสูงสุดที่ใช้ได้ก็จะยิ่งต่ำลงเท่านั้น
นอกจากนี้ แต่ละสัญญายังมีอัตราหลักประกันรักษาสภาพเฉพาะเจาจง หลักประกันที่ต้องการเพื่อรักษาโพสิชันจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามการเปลี่ยนแปลงในขีดจำกัดความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ด้วยสัญญา BTC Perpetual (USDT) เมื่อมูลค่าโพสิชันเท่ากับ 25,000 USDT ระดับที่สอดคล้องกันคือ 1 โดยมีอัตราหลักประกันรักษาสภาพ 0.4%, อัตราหลักประกันขั้นต้น 0.8%, และเลเวอเรจสูงสุด 125x เมื่อขีดจำกัดจำนวนสูงถึง 600,000 USDT ระดับจะเป็น 2 โดยมีอัตราหลักประกันรักษาสภาพ 0.7%, อัตราหลักประกันขั้นต้น 1.4%, และเลเวอเรจสูงสุด 75x เมื่อระดับขีดจำกัดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เกณฑ์มาร์จิ้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นและเลเวอเรจที่ใช้ได้จะลดลง
ดูขีดจำกัดความเสี่ยง
ในขณะที่เข้าสู่ระบบ ในหน้าการเทรดของเว็บไซต์ ให้คลิก เอกสารอ้างอิง ขีดจำกัดความเสี่ยง ที่มุมล่างขวา เพื่อเข้าถึงหน้าการสอบถามข้อมูล
ปรับขีดจำกัดความเสี่ยง
หากต้องการปรับขีดจำกัดความเสี่ยงบนเว็บไซต์ ให้คลิกที่ไอคอนวงกลมที่มุมขวาบนเพื่อเข้าสู่หน้าการตั้งค่า ในหน้าการตั้งค่าให้ปรับขีดจำกัดความเสี่ยง
ในหน้าการเทรดของแอปให้คลิก "..." (ที่มุมขวาบน) การตั้งค่า - ขีดจำกัดความเสี่ยง เพื่อเข้าสู่หน้าขีดจำกัดความเสี่ยง ในหน้านี้คุณยังสามารถปรับขีดจำกัดความเสี่ยงได้อีกด้วย
สถานการณ์ที่ได้รับผลกระทบจากระดับขีดจำกัดความเสี่ยง
1. การส่งคำสั่ง: จำนวนและเลเวอเรจที่ใช้ได้สำหรับคำสั่งและการถือครอง จะถูกกำหนดโดยระดับขีดจำกัดความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ในสัญญา BTC Forward Perpetual หากผู้ใช้อยู่ที่ระดับ 3 เลเวอเรจสูงสุดที่ใช้ได้สำหรับการส่งคำสั่งคือ 50x และขนาดโพสิชันสูงสุดคือ 1,000,000 USDT
2. การชำระบัญชี: ราคาชำระบัญชีของผู้ใช้จะคำนวณตามอัตราหลักประกันรักษาสภาพที่สอดคล้องกับระดับขีดจำกัดความเสี่ยง หากผู้ใช้ไม่ได้อยู่ที่ระดับ 1 โพสิชันจะถูกชำระบัญชีบางส่วนเพื่อลดระดับขีดจำกัดความเสี่ยง โดยกำไรหรือขาดทุนจากการชำระบัญชีนี้จะเข้าสู่ยอดคงเหลือในบัญชีของผู้ใช้โดยตรง หากผู้ใช้ที่ระดับ 1 โพสิชันจะถูกชำระบัญชีโดยตรงและถูกเทคโอเวอร์โพสิชัน ทั้งนี้ การชำระบัญชีบางส่วนใช้คำสั่ง Fill or Kill (FOK) หากคำสั่ง FOK ล้มเหลว โพสิชันทั้งหมดของผู้ใช้จะถูกชำระบัญชีและถูกเทคโอเวอร์
ตัวอย่างเช่น หากคุณถือโพสิชันที่มีมูลค่า 2,500,000 USDT และคุณอยู่ที่ระดับ 5 เมื่อมีการทริกเกอร์การชำระบัญชี จะมีการลดโพสิชันเพื่อที่จะลดลงไปที่ระดับ 4 ก่อน มูลค่าของการลดลงจะเท่ากับมูลค่าโพสิชันลบขีดจำกัดบนของระดับก่อนหน้า ซึ่งคือ 2,500,000 – 2,000,000 = 500,000 USDT แล้วระบบจะดำเนินการปิด 500,000 USDT หลังจากการลดลงแล้ว ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงจะลดลงไปที่ระดับ 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอัตราหลักประกันรักษาสภาพ และทำให้โพสิชันกลับสู่สถานะปกติ
ระดับการยืนยันตัวตนส่งผลกระทบต่อขีดจำกัดความเสี่ยงอย่างไร?
เมื่อกำหนดเลเวอเรจสูงสุด หากระดับการยืนยันตัวตนขัดแย้งกับระดับขีดจำกัดความเสี่ยง ระดับการยืนยันตัวตนจะถือว่ามีผลเหนือกว่า หากระดับการยืนยันตัวตนของคุณอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูงสุด 5x และขีดจำกัดความเสี่ยงตามขนาดโพสิชันปัจจุบันของคุณอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูงสุด 125x เลเวอเรจสูงสุดที่แท้จริงที่คุณสามารถใช้ได้คือ 5x คุณมีตัวเลือกในการปรับขีดจำกัดความเสี่ยงด้วยตนเอง แต่อัตราหลักประกันขั้นต้นจะอยู่ที่ 1 หารด้วยตัวคูณเลเวอเรจเสมอ ตัวอย่างเช่น หากเลเวอเรจสูงสุดปัจจุบันคือ 5x ฉะนั้น อัตราหลักประกันขั้นต้น= 1 / 5 * 100% = 20% อัตราหลักประกันรักษาสภาพจะปรับตามการเปลี่ยนแปลงในระดับขีดจำกัดความเสี่ยง
ปรับขีดจำกัดความเสี่ยง
เมื่อปรับจากระดับที่ต่ำกว่าเป็นระดับที่สูงขึ้น คุณจะถูกจำกัดโดยขีดจำกัดของตัวคูณเลเวอเรจ หากเลเวอเรจของโพสิชันของคุณในระดับที่ต่ำกว่า มีค่าสูงกว่าค่าสูงสุดที่อนุญาตในระดับที่สูงขึ้น คุณจะต้องเพิ่มเติมมาร์จิ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดโพสิชันในระดับ 1 ของสัญญา BTC/USDT ที่เลเวอเรจ 125x และต้องการปรับไปยังระดับ 2 ซึ่งรองรับเลเวอเรจสูงสุด 75x มาร์จิ้นเพิ่มเติมที่ต้องการ = มูลค่าโพสิชัน * (1/75 - 1/125) = มูลค่าโพสิชัน * 2/375 หากบัญชีของคุณมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมจำนวนนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนว่าการปรับเปลี่ยนล้มเหลวเนื่องจากเงินทุนไม่เพียงพอ เมื่อปรับจากระดับที่สูงกว่าไปยังระดับที่ต่ำกว่า การปรับจะถูกจำกัดโดยขนาดของโพสิชันของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากขนาดโพสิชันของคุณสูงกว่าขีดจำกัดบนของระดับที่ต่ำลง ระบบจะแจ้งให้คุณลดโพสิชันให้ต่ำกว่าขีดจำกัดบนของระดับที่สอดคล้องกัน ก่อนที่คุณจะสามารถลดระดับขีดจำกัดความเสี่ยงได้
เริ่มการเทรดฟิวเจอร์สตอนนี้!
คู่มือ KuCoin Futures:
ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุน!
ทีมงาน KuCoin Futures
หมายเหตุ: ผู้ใช้จากประเทศและภูมิภาคที่ถูกจำกัดไม่สามารถเปิดการเทรดฟิวเจอร์สได้